HOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรก
 
   แคนา
 
   เสลา
 
   อินทนิลบก
 
   ลำดวน
 
   สนมังกร
 
   ไทรทอง
 
   ชายผ้าสีดา
 
   เฟินข้าหลวงหลังลาย
 
   เฟินนาคราช
 
   เฟินงาม พันธุ์ขนนก
 
   เฟินราชินีเงิน
 
   เดหลี
 
   เฮลิโคเนีย
 
   เศรษฐีเรือนนอก
 
   เล็บครุฑ
 
   ข่อย
 
   อเมซอนใบกลม
 
   ชวนชม
 
   เตย
 
   พลูด่าง
 
   เข็ม
 
   จั๋ง
 
   โมก
 
   แก้ว
 
   ว่านน้ำ
 
   กล้วยพัด


Google



 

เฮลิโคเนีย
ชื่อสามัญ : Heliconia
ชื่อวิทยาศาสตร    : Heliconia spp.
วงศ์ : HELICONIACEAE, MUSACEAE
ชื่ออื่น : ก้ามกุ้ง สร้อยกัทลี

ชนิดและพันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล

1. ชิตาคอรัม       : ( H. psittacorum)

2. แคริเบีย        : ( H. coribaea)

3.ซาร์เตซี          : ( H. chartacea)

4. เพนดูล          : ( H. pendula)


เฮลิโคเนีย
 
 
ลักษณะทั่วไป

ธรรมรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก อวบน้ำ มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่า เหง้า ลักษณะคล้ายกับกล้วย ลำต้นมีความสูงประมาณ 1 - 2 เมตร การเจริญเติบโตจะแตกหน่อออกมาเป็นกอ ใบเรียงตัวสลับกัน ลักษณะของใบคล้ายใบกล้วยหรือพุทธรักษา มีสีเขียว ผิวเรียบเป็นมัน ขนาดของใบขึ้นกับชนิดของพันธุ์ ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ลักษาณะช่อดอกตั้งและห้อยลง แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ในแต่ละช่อดอกมี 4 - 8 ดอก ดอกมีสีส้ม สีแดง เหลือง และชมพู ผลคือส่วนของดอกเมื่อแก่ก็จะกลายเป็นเมล็ด

การเป็นมงคล

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นธรรมรักษาไว้ปรจำบ้าน จะช่วยคุ้มครองและรักษา ให้เกิดความสงบสุขแก่บ้านและผู้อาศัย เพราะธรรมรักษาเป็นไม้มงคลนาม นอกจากนี้ยังได้นำดอกของธรรมรักษา มาประกอบในพิธีบูชาพระได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพราะ ธรรมรักษา หรือ ธรรมะ คือการักษาในสิ่งที่ดีงาม มีคุณธรรมซึ่งควรเคารพและบูชา ดังนั้นจึงเชื่อว่า การรักษาธรรมะ หรือ ธรรมรักษา คือ การช่วยคุ้มครองรักษานั่นเอง

ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก

เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นธรรมรักษาไว้ทางทิศใต้หรือทางทิศตะวันออกก็ได้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทางดอกให้ปลูกในวันพุธ

การปลูก
  
การปลูก วิธีที่นิยมปลูกมี 2 วิธี คือ

1). การปลูกในแปลงปลูก ทำกัน 2 แบบ
     1.1การปลูกในแปลงใหญ่หรือปลูกในสวนคือปลูกเป็นจำนวนมากใช้ขนาดแปลงกว้างประมาณ12เมตรโดยยกคันดินเป็นร่องคล้าย
          กับแปลงปลูกผัก ขนาดหลุมปลูกประมาณ 30 x 30 x30เซนติเมตรระยะปลูกประมาณ12เมตร การเตรียมดินโดยการไถพรวนดิน
         แล้วผสมปุ๋ยอินทรีย์ลงไป อัตราประมาณ 30 - 50กิโลกรัม/แปลงในขนาดแปลงปลูกประมาณ 2 x 30 เมตร
     1.2 การปลูกในแปลงปลูกขนาดเล็ก ที่มีจำนวนพื้นที่จำกัด เช่น การปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรือสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x         30 เซนติเมตรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วนอัตรา1:1ผสมดินปลูกแต่ถ้าจะให้สวยงามควรปลูกเป็นกลุ่มเพราะจะได้เห็นความ
          สวยงามของดอกได้เด่นชัดขึ้น

2). การปลูกในกระถางเพื่อใช้ประดับอาคารบ้านเรือน นิยมใช้เป็นดอกประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางสูงขนาด 10 - 16 นิ้ว     ใช้ปุ๋ยคอก : แกลบผุ : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถาง 12ปี/ครั้งเพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป
     และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป

การดูแลรักษา

แสง  ต้องการแสงแดดร่ม รำไร จนถึงแดดจัด หรือกลางแจ้ง

น้ำ  ต้องการปริมาณน้ำปานกลางจนถึงมาก ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน / ครั้ง

ดิน  ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย

ปุ๋ย ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/กอ ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง

การขยายพันธุ์   การเพาะเมล็ด การแยกกอ การเพาะเลี้ยเนื้อเยื่อ

วิธีที่นิยมและได้ผลดีคือ  การแยกกอ

โรคศัตรู  ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรูจะพบเพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง

อาการ  กัดดูดน้ำเลี้ยงบริเวณใบ ก้านใบและยอดอ่อนทำให้ใบเลือง เหี่ยวเฉา

การป้องกัน  กำจัดพาหะพวกมดต่างๆ โดยใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40 % อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก

การกำจัด  ใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40 % หรือ ไดซีสตอน เมทาซีสทอกซ์ อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก

ข้อมูลจาก : http://www.maipradabonline.com
ภาพประกอบ : สุวิวัฒน์  หงษ์สมบัติ