|
|
|
บทความในหลวงของเรา
ในหนังสือว่า...หลังงานพระบรมศพสมเด็จย่าเสร็จสิ้นลงแล้ว
>>ราชเลขาฯของสมเด็จย่ามาแถลงในที่ประชุมต่อหน้าสื่อมวล
ชนว่า
>>ก่อนสมเด็จย่าจะสิ้นพระชนม์ปีเศษ ตอนนั้นอายุ 93
>>ในหลวงเสด็จจากวังสวนจิตรไปวังสระปทุมตอนเย็นทุกวัน
>>ไปทำไม?
>>ไปกินข้าวกับแม่ ไปคุยกับแม่ ไปทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ
พอเขาแถลงถึงตรงนี้
>>เราตกตะลึง โอ้โห! ขนาดนี้เชียวหรือในหลวงของเรา
>>เสด็จไปกินข้าวมื้อเย็นกับแม่ สัปดาห์ละกี่วัน...ทราบไหม?
|
|
|
>>5 วัน
>>มีใครบ้าง? ที่อยู่คนละบ้านกับแม่ แล้วไปกินข้าวกับแม่สัปดาห์ละ 5 วัน
>>หายาก...
>>ในหลวงมีโครงการเป็นร้อยเป็นพันโครงการ มีเวลาไปกินข้าวกับแม่สัปดาห์ละ 5 วัน
>>พวกเรา ซี 7 ซี 8 ซี 9 ร้อยเอก พลตรี อธิบดี ปลัดกระทรวง
>>ไม่เคยไปกินข้าวกับแม่ บอกว่างานยุ่ง แม่บอกว่าให้พาไปกินข้าวหน่อย
>>บอกว่าไม่มีเวลา จะไปตีกอล์ฟ
>>ทุกครั้งที่ในหลวงไปหาสมเด็จย่า ในหลวงต้องเข้าไปกราบที่ตัก
>>แล้วสมเด็จย่าก็จะดึงตัวในหลวงเข้ามากอด กอดเสร็จก็หอมแก้ม
>>ตอนสมเด็จย่าหอมแก้มในหลวง เราคิดว่าแก้มในหลวงคงไม่หอมเท่าไร
>>เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอม
>>แต่ทำไมสมเด็จย่าหอมแล้วชื่นใจ
>>เพราะท่านได้กลิ่นหอมจากหัวใจในหลวง หอมกลิ่นกตัญญู
>>ไม่นึกเลยว่าลูกคนนี้จะกตัญญูขนาดนี้ จะรักแม่มากขนาดนี้
>>ตัวแม่เองคือสมเด็จย่าไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นคนธรรมดาสามัญชน
>>เป็นเด็กหญิงสังวาลย์ เกิดหลังวัดอนงค์เหมือนเด็กหญิงทั่วไป
>>เหมือนพวกเราทุกคนในที่นี้
>>ในหลวงน่ะ...เกิดมา เป็นพระองค์เจ้า เป็นลูกเจ้าฟ้า ปัจจุบันเป็นกษัตริย์
>>เป็นพระเจ้าแผ่นดินอยู่เหนือหัว
>>แต่ในหลวงที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ก้มลงกราบคนธรรมดา...ที่เป็นแม่
>>หัวใจลูกที่เคารพแม่ กตัญญูกับแม่อย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว
>>คนบางคน พอเป็นใหญ่เป็นโต ไม่กล้าไหว้แม่ เพราะแม่มาจากเบื้องต่ำ เป็นชาวนา
>>เป็นลูกจ้าง ไม่เคารพแม่ ดูถูกแม่ แต่นี่ในหลวงเทิดแม่ไว้เหนือหัว
>>นี่แหละครับความหอม
>>นี่คือเหตุที่สมเด็จย่าหอมแก้มในหลวงทุกครั้ง ท่านหอมความดี หอมคุณธรรม
>>หอมความกตัญญูของในหลวง
>>หอมแก้มเสร็จแล้วก็ร่วมโต๊ะเสวย
>>...มีอยู่เรื่องหนึ่งที่จำได้แม่น สมเด็จย่าเล่าว่า ตอนเรียนหนังสือที่สวิส
>>ในหลวงยังเล็กอยู่ เข้ามาบอกว่า อยากได้รถจักรยาน เพื่อนๆ เขามีจักรยานกัน
>>แม่บอกว่า ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็เก็บสตางค์ที่แม่ให้ไปกินที่โรงเรียนไว้สิ
>>เก็บมาหยอดกระปุกวันละเหรียญ สองเหรียญ พอได้มากพอ ก็เอาไปซื้อจักรยาน
>>...พอถึงวันปีใหม่ สมเด็จย่าก็บอกว่า "ปีใหม่แล้ว เราไปซื้อจักรยานกัน
>>เอากระปุก...ดูซิว่ามีเงินเท่าไร?"
>>เสร็จแล้วสมเด็จย่าก็แถมให้ ส่วนที่แถมนะ มากกว่าเงินที่มีในกระปุกอีก
>>มีเมตตาให้เงินลูก ให้ไม่ได้ให้เปล่า สอนลูกด้วย สอนให้ประหยัด
>>สอนว่าอยากได้อะไร ต้องเริ่มจากตัวเรา คำสอนนั้นติดตัวในหลวงมาจนทุกวันนี้
>>เขาบอกว่าในสวนจิตรฯเนี่ย...คนที่ประหยัดที่สุดคือในหลวง
>>...คราวหนึ่งในหลวงป่วย สมเด็จย่าก็ป่วย ไปอยู่ศิริราชด้วยกัน
>>แต่อยู่คนละมุมตึก ตอนเช้าในหลวงเปิดประตู แอ๊ด...ออกมา
>>พยาบาลกำลังเข็นรถสมเด็จย่าออกมารับลมผ่านหน้าห้องพอดี ในหลวงพอเห็นแม่
>>รีบออกจากห้องมาแย่งพยาบาลเข็นรถ
>>มหาดเล็กกราบทูลว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องเข็น มีพยาบาลเข็นให้อยู่แล้ว
>>ในหลวงมีรับสั่งว่าแม่ของเรา ทำไมต้องให้คนอื่นเข็น เราเข็นเองได้
>>นี่ขนาดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นกษัตริย์ ยังมาเดินเข็นรถให้แม่ ยังมาป้อนข้าว
>>ป้อนน้ำให้แม่ ป้อนยาให้แม่ ให้ความอบอุ่นแก่แม่ เลี้ยงหัวใจแม่
>>ยอดเยี่ยมจริงๆ เห็นภาพนี้แล้วซาบซึ้ง...
>>...ในหลวงเฝ้าสมเด็จย่าอยู่จนถึงตี 4 ตี 5 เฝ้าแม่อยู่ทั้งคืน จับมือแม่
>>กอดแม่ ปรนนิบัติแม่ จนกระทั่ง "แม่หลับ..." จึงเสด็จกลับ
>>พอไปถึงวัง เขาโทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์
>>ในหลวงรีบเสด็จกลับไปศิริราช เห็นสมเด็จย่านอนหลับตาอยู่บนเตียง
>>ในหลวงตรงเข้าไปคุกเข่า กราบลงที่หน้าอกแม่ พระพักตร์ในหลวงตรงกับหัวใจแม่
>>"ขอหอมหัวใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย"
>>ซบหน้านิ่งอยู่นาน แล้วค่อยๆ เงยพระพักตร์ขึ้น น้ำพระเนตรไหลนอง
>>ต่อไปนี้....จะไม่มีแม่ให้หอมอีกแล้ว
>>เอามือกุมมือแม่ไว้ มือนิ่มๆ ที่ไกวเปลนี้แหละ ที่ปั้นลูกจนได้เป็นกษัตริย์
>>เป็นที่รักของคนทั้งบ้านทั้งเมือง
>>ชีวิตลูก แม่ปั้น
>>มองเห็นหวี ปักอยู่ที่ผมแม่ ในหลวงจับหวี ค่อยๆ หวีผมให้แม่
>>หวี...หวี...หวี...หวี ให้แม่สวยที่สุด แต่งตัวให้แม่ ให้แม่สวยที่สุด
>>ในวันสุดท้ายของแม่...
>>เป็นภาพที่ประทับใจเราที่สุด...เป็นสุดยอดของลูกกตัญญู...หาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว
ข้อมูลจาก : forward mail
|
|
|
เพลง: ชะตาชีวิต
บทเพลงพระราชนิพนธ์
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
|
|
|