HOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรกHOME หน้าแรก
บทนำ
    
    
    
    
    
    
    







Google

 
กลิ่นปาก ... เกิดจากอะไร

กลิ่นปาก เป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลใจ และความรู้สึกไม่มั่นใจ สำหรับหลายๆ คน แม้ว่าจะพยายามใช้น้ำยาบ้วนปาก ยาอม หรือสเปรย์ดับกลิ่นปาก ก็ให้ผลแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ถ้ายังไม่ได้รับการแก้ไขที่สาเหตุที่ถูกต้อง กลิ่นปากก็ยังคงอยู่

กลิ่นเหม็นจากปาก เกิดขึ้นได้คล้ายๆ กับกลิ่นเหม็นที่เกิดจากส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นผลมาจาก  แบคทีเรียกลุ่มที่ทำให้เกิดการย่อยสลาย โดยไม่ต้องการอากาศ   ซึ่งมีอยู่หลาย
 
 

ชนิด แบคทีเรียเหล่านี้ ทำให้เกิดการเน่า และเกิดสารระเหยของซัลเฟอร์ คือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ และเม็ททิล เมอร์แคปแทน มีคุณสมบัติทำให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น แบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุนี้ จะมีอยู่ตามปกติในช่องปาก

ดังนั้น ในบริเวณใด ที่มีเศษอาหารตกค้าง แบคทีเรียก็ทำให้เกิดการบูดเน่า และเกิดกลิ่นเหม็นขึ้นได้ มีคนเคยศึกษา โดยวิธีการดมกลิ่นเหม็นจากช่องปาก สามารถแยกกลิ่นเหม็นได้แตกต่างกัน 4 แบบ คือ กลิ่นที่มาจากด้านหลังของลิ้น กลิ่นของโรคปริทันต์ ซึ่งมักมาจากบริเวณใต้เหงือก และซอกเหงือก กลิ่นที่มาจากฟันปลอม และกลิ่นที่เกิดจากการสูบบุหรี่

ปัจจัยเสริม ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก

กลิ่นปากเกิดได้กับทุกบริเวณในช่องปาก ที่มีเศษอาหารตกค้าง แล้วเกิดการเน่าเสีย เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น ดังนั้น อะไรก็ตามที่มีผลให้มีเศษอาหารตกค้างหมักหมม ก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ บริเวณที่จะพบบ่อยๆ คือ ที่ลิ้น ร่องเหงือก ใต้ขอบเหงือก ส่วนอื่นที่สามารถพบได้อีก คือ บริเวณที่อุดฟัน ครอบฟันไม่พอดี การเป็นโรคปริทันต์ เหงือกอักเสบ มีฟันผุรูกว้าง ฟันปลอมชนิดถอดได้ ทำให้มีเศษอาหารตกค้างในบริเวณดังกล่าว จึงเป็นต้นเหตุที่สำคัญ ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก โดยเฉพาะในคนที่ใส่ฟันปลอมในขณะนอน การหลั่งของน้ำลายมาก น้อย ก็ส่งผลต่อการเกิดกลิ่นปากได้ ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาที่เราอดอาหาร การหลั่งน้ำลายจะลดลง ก็จะส่งผลให้มีกลิ่นปากขึ้น ในภาวะที่เคี้ยวอาหาร จะช่วยเพิ่มการหลั่งของน้ำลายมากขึ้น ส่งผลต่อการทำความสะอาดในช่องปาก กลิ่นปากก็ลดลง นอกจากนี้ ยังพบว่า ในคนที่สูบบุหรี่ จะมีกลิ่นบุหรี่ติดค้างในช่องปาก ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเฉพาะได้

กลิ่นปาก ... เกิดจากลิ้น

กลิ่นปาก ... เกิดจากลิ้น เป็นไปได้หรือเปล่า ?

กลิ่นเหม็นจากช่องปาก บางครั้งเกิดขึ้นได้จากโคนลิ้นด้านในสุด เนื่องจากมีน้ำเมือในช่องจมูกไหลลงคอ การเกิดภาวะเช่นนี้ ไม่จำเป็นว่า จะเกิดจากการเจ็บป่วย หรือเป็นโรค แต่มักจะมีสาเหตุมาจาก อาการของภูมิแพ้มากกว่า น้ำเมือกที่ไหลลงคอ ที่โคนลิ้นในระยะแรกๆ จะไม้ทำให้เกิดกลิ่นปาก สัก 2-3 วัน แบคทีเรียจะมาย่อยน้ำเมือก ทำให้เกิดกลิ่น เราสามารถทดสอบกลิ่น โดยใช้ซ้อนพลาสติกขูดเบาๆ ที่ด้านในสุดของลิ้น ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ จึงดมดู มีข้อสังเกตในกรณีคนที่มีกลิ่นปากจากสาเหตุนี้ เวลาเป่าปากจะไม่ค่อยได้กลิ่น แต่กลิ่นจะเหม็นเมื่อเริ่มพูด เนื่องจากมีลมผ่านลิ้นที่เคลื่อนไหว จึงมีกลิ่นมากขึ้น ดังนั้น จึงควรแปรงลิ้นหลังการแปรงฟันทุกครั้ง และแปรงให้ลึกถึงโคนลิ้น จะช่วยทำความสะอาดน้ำเมือกตกค้าง ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้

 


 
จะรู้ได้อย่างไร ว่า ... ปากมีกลิ่น

คนส่วนใหญ่ มักไม่รู้ตัวว่ามีกลิ่นปาก หรือไม่ วิธีการทดสอบง่ายๆ โดยทั่วไป มักจะใช้วิธี การเอามือปิดปาก และจมูก เป่าลมแรงๆ ออกจากปาก และดม ซึ่งบางคนก็สามารถบอกได้ว่า มีกลิ่นปากหรือไม่ หรือจะใช้วิธีเลียที่ข้อมือ และดมดู ในบางคนอาจจะใช้นิ้วถูที่บริเวณเหงือก แล้วนำมาดมกลิ่นว่า เหม็นหรือไม่ ในส่วนการใช้เครื่องมือตรวจวัดกลิ่นนั้น ญี่ปุ่นเคยทำไว้ แต่ก็มีข้อสงสัยว่า เครื่องนั้นสามารถตรวจได้ถูกต้องหรือไม่ จึงไม่เป็นที่นิยมใช้ วิธีการที่จะทราบว่า เรามีกลิ่นปากอยู่เป็นประจำหรือไม่ ก็ควรขอร้องคนใกล้ชิด เช่น สมาชิกในครอบครัว ให้ช่วยบอกความจริง จะเป็นวิธีการที่จะทราบว่า มีกลิ่นปากหรือไม่

กลิ่นปากจาก ... บุหรี่

บางคนเชื่อว่า การสูบบุหรี่จะช่วยปกปิดกลิ่นปาก ... ไม่จริงเลย

เพราะการสูบบุหรี่ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยทั่วไปแล้ว การสูบบุหรี่จะเป็นปัจจัยเสริม ให้เป็นโรคปริทันต์รุนแรงมากขึ้น และยังส่งผลให้มีน้ำเมือกจากโพรงจมูกด้านหลัง ไหลลงคอมากขึ้น ซึ่งทั้งโรคปริทันต์ และการมีน้ำเมือกมาก จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ นอกจากนั้น กลิ่นของบุหรี่เอง จะตกค้างอยู่ในช่องปาก ผสมกับกลิ่นอื่นๆ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเฉพาะของคนที่สูบบุหรี่ขึ้นได้

ใช้น้ำยาบ้วนปากดับกลิ่นได้หรือไม่

การแก้ปัญหามีกลิ่นปาก ด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปาก หรือสเปรย์ หรือลูกอมรสมินท์ เป็นการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมากด้วย เพราะโดยทั่วไป น้ำยาบ้วนปากจะมีส่วนผสมหลัก คือ สารแต่งรส แอลกอฮอล์ และสารต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ และมีหลายชนิดที่มีส่วนผสมของ 0.2% คลอเฮ็กซิดีน ที่ช่วยลดกลิ่นได้ แต่การใช้น้ำยาบ้วนปากผสมคลอเฮ็กซิดีนในระยะยาว จะมีผลเสีย ทำให้เกิดคราบสีที่ฟัน

น้ำยาบ้วนปากจะช่วยลดกลิ่นปากได้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะไม่ได้กำจัดสาเหตุที่แท้จริงออกไป ทำให้อาการของโรคถูกปิดบัง จนอาจเกิดอาการรุนแรงได้โดยไม่รู้ตัว และในบางครั้ง กลิ่นของน้ำยาบ้วนปาก อาจผสมกับกลิ่นปาก ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดของการรักษากลิ่นปากก็คือ การค้นหาและกำจัดโรคที่เกิดขึ้น และการแปรงฟันที่สะอาด อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

แล้วเราจะรักษากลิ่นปากได้อย่างไร

วิธีการจะแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นปาก ให้ได้ผลนั้น ต้องเน้นที่ การดูแลรักษาอนามัยช่องปากให้สะอาด และดูแลรักษาสภาวะในช่องปากให้เป็นปกติ หากมีสภาพของฟันและเหงือกที่เป็นโรค ควรที่จะไปรับการรักษา ในกรณีที่มีฟันเก มีซอกเหงือก หรือร่องเหงือก ที่ทำให้มีเศษอาหารตกค้าง ควรใช้ไหมขัดฟัน ช่วยทำความสะอาดที่บริเวณนี้เพิ่มจากการแปรงฟัน ในส่วนของลิ้นก็ควรแปรงให้สะอาด และแปรงให้ถึงโคนลิ้น ซึ่งมักเป็นแหล่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ในกรณีที่มีปากแห้ง ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://happysmile.anamai.moph.go.th กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย

 



Last Update :  24 January, 2011